ยกให้เป็นเมนูแซ่บ ๆ ที่บำรุงสุขภาพ ทานได้ทุกวัย รสชาติดี มีความกลมกล่อม หอมผักหวาน และกินไข่มดแดงนัว ๆ เมนูนี้ค่อนข้างหาทานยาก นาน ๆ จะได้กินที เพราะว่าไข่มดแดงมีตามฤดูกาล มีประโยชน์มาก ทั้งโปรตีนสูง แคลอรี่ต่ำ และเมื่อมาแกงกับผักหวาน ก็จะช่วยเรื่องต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัยด้วย เมนูนี้ทำไม่ยาก ปรุงรสนิดหน่อย ก็รสชาติดี
วัตถุดิบ แกงไข่มดแดง
– พริกแดงจินดา 3 เม็ด
– พริกแดงแห้ง 2 เม็ด
– ตะไคร้ซอยบาง 1 ต้น
– หอมแดง 5 หัว
– เกลือป่น 1 ช้อนชา
– ผงนัว 1 ช้อนชา
– ผักหวาน 2 กำใหญ่
– ไข่มดแดง 1 ถ้วยตวง
– ใบแมงลัก 1 กำเล็ก
– น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
– น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
– ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
ขั้นตอนการทำ แกงไข่มดแดง
– เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม นำไข่มดแดงไปล้างให้สะอาด แล้วพักให้สะเด็ดน้ำรอไว้ก่อน
– เด็ดผักหวานออกจากก้านทั้งหมด แล้วนำไปล้างให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำเช่นกัน
– ตำเครื่องแกงไข่มดแดง นำพริกสด และพริกแห้งใส่ครก ปอกเปลือกหอมแดงออกให้หมด ใส่ลงไปประมาณ 5 หัว ตามด้วยเกลือป่น
– โขลกทุกอย่างให้เข้ากัน ให้เนื้อพริกแกงละเอียด
– ตั้งน้ำเปล่าให้เดือด เลือกหม้อขนาดกลาง ๆ ใส่น้ำลงไปครึ่งนึง หรือประมาณ 2 ถ้วยตวง
– พอน้ำเดือด ให้ตักพริกแกงใส่ลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้า และผงนัว ถ้าใครไม่ชอบ ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ
– ต่อมาใส่ผักหวาน ตามด้วยไข่มดแดง ต้มไปประมาณ 2-3 นาที ให้ผักหวานสุก ก็ปิดเตาได้
– เด็ดใบแมงลัก แล้วล้างให้สะอาด จากนั้นก็ใส่ลงในหม้อ ตามด้วยใบมะกรูดฉีก คนทุกอย่างให้เข้ากัน จะได้ความหอม และมีความกลมกล่อม แซ่บนัว
สำหรับเมนูนี้ สามารถดัดแปลงได้หลายสูตร ใส่วัตถุดิบอื่น ๆ เพิ่มได้อีก ทั้งเห็ดนางฟ้า เห็ดฟ้า เห็ดเข็มทอง หรือจะดัดแปลงแกงแบบแกงเลียงก็ได้ แล้วใส่ไข่มดแดง บางสูตรจะใส่น้ำใบย่านาง จะมีสีเข้ม และมีรสหวานมากขึ้น หากชอบรสชาติที่เผ็ดร้อน สามารถเติมพริกไทยลงไปได้เช่นกัน
ไข่มดแดง มีราคาสูง แต่ก็รสชาติอร่อย ในปีนึงควรหาทานให้ได้สักครั้ง และข้อควรระวังของเมนูไข่มดแดง คือต้องทำให้สุกเท่านั้น ต้องผ่านความร้อนเป็นเวลานาน สัก 3-4 นาทีขึ้นไป เพราะไม่สามารถทานแบบกึ่งสุก กึ่งดิบได้ จะเสี่ยงต่อการท้องเสีย ท้องร่วง
#เมนูอาหารอยู่บ้าน #อาหารทำเอง #แกงผักหวานไข่มดแดง